วันพฤหัสบดีที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2560

วันไบโพล่าร์ กับคนป่วยจิตคนหนึ่ง

"ใครรู้บ้างว่าวันนี้วันอะไร ^_^"
"ไม่รู้จริง ๆ หรอ เก๊าเสียจัยยย T^T"

วันนี้ 30 มีนาคม เป็นวันไบโพล่าร์โลก หรือ World Bipolar Day วันที่โลกจะต้องให้ความสำคัญของโรคนี้ด้วยความเข้าใจใหม่ว่าไม่ใช่คนที่เป็นโรคนี้จะต้องฆ่าแกงชาวบ้านด้วยความโหดเหี้ยม หากแต่พวกเขาเสี่ยงตายด้วยน้ำมือตัวเองมากกว่าคนป่วยซึมเศร้าปกติด้วยซ้ำ

โรคไบโพล่าร์นี้มันเป็นยังไง?

ไบโพล่าร์เป็นอาการป่วยที่ทำให้ผู้ป่วยมีความแปรปรวนในอารมณ์สูง อาการจะสลับไปมาระหว่างซึมเศร้า (depressive) กับร่าเริงสุดขั้ว (mania) เนื่องจากการหลั่งสารเคมีในสมองผิดปกติ แต่ไม่ต้องกังวลไปว่าคุณจะอยู่ร่วมกับคนพวกนี้ไม่ได้ เพราะประชากรโลกร้อยละ 2 ป่วยเป็นโรคนี้จ้ะ

แล้วทำไมเราถึงพูดถึงเรื่องนี้...

...เพราะเราป่วยเป็นไบโพล่าร์อยู่ไง

ความเก็บกดในวัยเด็กมันลุกลามมาจนทำให้เรากลายเป็นคนคิดมาก ขี้เครียด ถามเพื่อนแล้วเพื่อนก็บอกว่าอยู่กับมึงแล้วเครียดเลยไม่ค่อยมีใครคบ ประกอบกับเรื่องเพศของเรายังไม่แน่นอนในตอนนั้นทำให้หลายคนมองเราเป็นตัวประหลาด

เราเก็บตัวอ่านหนังสือสอบเข้ามหาลัยเงียบ ๆ เข้าป.ตรีก็ร่วมกิจกรรมนะ แต่ตอนรับน้องนี่ใจไม่สู้เลย อยากตายมาก ๆ การได้มาอยู่คนเดียวจริง ๆ ที่เชียงใหม่มันทำให้เราเครียดตรงที่เราจะใช้ชีวิตยังไงไม่ให้หลุดไปจากกรอบที่ตัวเองสร้างไว้ คือการทำเกรดหรู ๆ ไว้ใช้ในอนาคตหลังเรียนจบ

ขึ้นปี 2 เจอแฟนคนแรกที่ทำให้เรามีความสุขในชีวิตอยู่บ้าง ระหว่างทางแห่งความรักเส้นนี้มันมีบาดแผลทั้งทางกายและใจ เรากรีดข้อมือ ทุบตีตัวเอง เอาหัวโขกกำแพง ทำลายข้าวของและคนรัก แต่พอเลิกกันตอนปี 4 มันไม่ไหวแล้ว มันอยากตายมาก ๆ เลยตัดสินใจไปหาหมอ และแน่นอนว่าต้องบอกว่าอาการแบบนี้ต้องเยียวยาอย่างเร่งด่วน...

...ชีวิตบัดซบมั๊ยล่ะ

ถึงตอนนี้ผ่านมาสามปีหลังจากที่เราเข้ารับการรักษา เปลี่ยนโรงพยาบาล 3 ครั้ง ล่าสุดรักษาที่โรงพยาบาลศิริราช อาการมีกำเริบบ้าง แต่ก็อยู่ร่วมกับคนอื่นได้ มีความสุขพร้อมความโสด จนกระทั่งเราเพิ่งเลิกกับแฟนคนล่าสุดเนี่ยแหละที่ทำให้เราดีเพรสอีกครั้ง แต่มันไม่ร้ายแรงเท่าตอนที่เลิกกับคนแรกแล้วล่ะ เลยพอจะเข้าใจได้ว่าเขาจากไปเพราะอะไร

อยากฝากถึงทุกคนว่า เรื่องอารมณ์แปรปรวนใครก็เป็นได้ แต่อย่าลืมไปเช็คสุขภาพจิตกันบ้างนะครับ เพื่อชีวิตที่ดีของทุกคน และใครที่เป็นหรือมีญาติที่เป็นโรคนี้ เรามีคอมมูนิตี้ในเฟซบุ๊คนะครับ ที่กลุ่มลานไบโพล่าร์ FC ครับ ที่สำคัญเลยคืออย่าขาดยาและหาใครสักคนคุยด้วยเวลาเหงาหรือเครียดนะครับ

สำหรับวันนี้พอแค่นี้ก่อนล่ะครับ จะไปปั่นวิจัยต่อละ
ขอบคุณที่รับฟังครับ
ลงชื่อ
แมวส้ม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ความหวังยังไม่จางหายไป

 ในช่วงเวลาที่เราอยู่ในช่วงอารมณ์ที่มืดมิด บางทีเราก็ต้องการแสงสว่างในใจบ้าง... พี่สาวผมไปผ่อนคลายหลังทำดิซเซอร์เทชั่น (คล้าย ๆ วิทยานิพ...